โบริ้วรอยตรงไหนได้บ้าง แต่ละจุดมีผลลัพธ์อย่างไร ?
เจาะลึกตำแหน่งของการฉีดโบท็อกซ์บนใบหน้าว่าแพทย์ฉีดให้คนไข้ตรงตำแหน่งใดบ้าง เพื่อช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้เล็กเรียว
หลังจากได้ทราบกันไปแล้วว่า โบริ้วรอย สามารถช่วยลดริ้วรอยบนบหน้า และปรับรูปหน้าให้เล็กเรียวได้ วันนี้บทความของ ZINCIA AESTHETIC CLINIC จะมาเจาะลึกในเรื่องตำแหน่งของการฉีดโบท็อกซ์กันว่าแพทย์ฉีดให้คนไข้ตรงตำแหน่งใดบ้าง
โบริ้วรอยนิยมฉีดตรงไหน แต่ละจุดผลลัพธ์เป็นอย่างไร
การฉีดโบท็อกซ์แต่ละตำแหน่งจะใช้จำนวนยูนิตที่ไม่เท่ากัน ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและวิเคราะห์ปัญหาของคนไข้ก่อนฉีดทุกครั้ง โดยปริมาณของตัวยาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคล
สำหรับตำแหน่งที่นิยมฉีดโบท็อกซ์บนใบหน้าและผลลัพธ์ที่ได้ มีดังนี้
สำหรับตำแหน่งที่นิยมฉีดโบท็อกซ์บนใบหน้าและผลลัพธ์ที่ได้ มีดังนี้
- หน้าผาก – ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ทำให้หน้าผากตึงอย่างเป็นธรรมชาติ (ใช้ประมาณ 15-20 ยูนิต)
- หว่างคิ้ว – ลดรอยย่นระหว่างคิ้วที่เกิดจากการขมวดคิ้ว และชะลอการเกิดรอยย่นถาวร (ใช้ประมาณ 6-20 ยูนิต)
- หางตา – ลดริ้วรอยตีนกาขณะแสดงสีหน้า ป้องกันริ้วรอยที่หางตาในอนาคต (ใช้ประมาณ 10-25 ยูนิต)
- กราม – ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม เมื่อกล้ามเนื้อเล็กลง จะส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง (ใช้ข้างละประมาณ 25-30 ยูนิต)
- สันจมูก – ลดริ้วรอยที่เป็นรอยย่นตรงสันจมูก ทำให้รอยย่นดูตึงขึ้น (ใช้ประมาณ 4-6 ยูนิต)
- ปีกจมูก – ลดปีกจมูกให้ดูเล็กลง ทำให้จมูกได้รูปสวยขึ้น และเวลาแสดงสีหน้า ปีกจมูกขยับได้น้อยลง (ใช้ประมาณ 15-20 ยูนิต)
- ลิฟต์กรอบหน้า – ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ หน้าเรียวขึ้น (ใช้ประมาณ 30-50 ยูนิต)
- กระชับรูขุมขน – รูขุมขนบนใบหน้ากระชับขึ้น ผิวจึงดูเรียบเนียนขึ้น (ใช้ประมาณ 25-30 ยูนิต)
ทำไมโบริ้วรอยช่วยให้ใบหน้าดูเด็กขึ้น
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้โบท็อกซ์ได้รับความนิยม เป็นเพราะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนในเรื่องการลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ที่ไม่ใช่ริ้วรอยถาวรที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้การใบริ้วรอยช่วยให้ใบหน้าดูเด็กหรืออ่อนเยาว์ขึ้น
ทั้งนี้ หลังฉีดโบท็อกซ์แล้วจะเริ่มเห็นผลภายในระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน และการฉีดในแต่ละครั้งสามารถอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขณะที่การดูแลผิวด้วยครีมบำรุงต่าง ๆ จะใช้เวลาที่นานกว่าจะเห็นผลลัพธ์จากการบำรุงผิว
อย่างไรก็ตาม การโบริ้วรอย มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน เพราะหากไม่ใช่โบท็อกซ์แท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. อาจส่งผลให้เกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ และหากฉีดผิดตำแหน่งก็อาจะเกิดอันตรายได้ จึงต้องฉีดโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็อาจจะส่งผลให้หนังตาตก ปากเบี้ยว หรือรอยยิ้มดูไม่เป็นธรรมชาติได้
ทั้งนี้ หลังฉีดโบท็อกซ์แล้วจะเริ่มเห็นผลภายในระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน และการฉีดในแต่ละครั้งสามารถอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขณะที่การดูแลผิวด้วยครีมบำรุงต่าง ๆ จะใช้เวลาที่นานกว่าจะเห็นผลลัพธ์จากการบำรุงผิว
อย่างไรก็ตาม การโบริ้วรอย มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน เพราะหากไม่ใช่โบท็อกซ์แท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. อาจส่งผลให้เกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ และหากฉีดผิดตำแหน่งก็อาจะเกิดอันตรายได้ จึงต้องฉีดโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็อาจจะส่งผลให้หนังตาตก ปากเบี้ยว หรือรอยยิ้มดูไม่เป็นธรรมชาติได้
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: Allergan โบท็อกซ์อเมริกา ดีอย่างไร ทำไมได้รับความนิยม ?
