ข้อควรปฏิบัติหลังโบริ้วรอย เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง
9 ข้อควรปฏิบัติหลังโบริ้วรอย เพื่อลดการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้ตัวยาโบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ
การ โบริ้วรอย เพื่อลดริ้วรอยบนใบหน้า รวมถึงปรับรูปหน้า จะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจยิ่งขึ้น เมื่อคนไข้ดูแลและปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะนอกจากจะลดการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์แล้ว ยังทำให้ตัวยาโบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย และนี่คือ 9 ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ที่ ZINCIA AESTHETIC CLINIC นำมาฝากกัน
1. งดนอนราบ 3-4 ชั่วโมงแรก
หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรนั่งหรือนอนหนุนหมอนสูงอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงแรก และงดการนอนตะแคง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาไหลหรือกระจายไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ
2. งดการกด นวดบริเวณที่ฉีด
หากไม่อยากให้ตัวยากระจายไปยังกล้ามเนื้อบริเวณอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการ ควรงดการนวดหน้า กด บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์เป็นอันขาด และควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยากระจายได้ดียิ่งขึ้น
3. งดประคบเย็นบริเวณที่ฉีด
แม้จะมีรอยนูนของผิวหลังฉีดโบท็อกซ์ ก็ไม่ควรประคบเย็นบริเวณดังกล่าว เพราะจะไปขัดขวางการดูดซึมของโบท็อกซ์ได้ โดยรอยนูนเหล่านั้นจะหายไปเองภายในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง
4.งดการออกกำลังกายหนัก 24 ชั่วโมงแรก
การออกกำลังกายจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้ตัวยาโบท็อกซ์กระจายตัวเร็วขึ้น อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร จึงควรงดการออกกำลังกายหนัก ๆ ใน 24 ชั่วโมงแรก
5. หลีกเลี่ยงความร้อน และแสงแดด 2 สัปดาห์แรก
ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวกับความร้อนทุกชนิด เช่น การเข้าซาวน่า, การอบไอน้ำ, ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หรือนั่งรับประทานอาหารหน้าเตาร้อน เช่น ปิ้งย่าง ชาบู รวมถึงหัตถการเสริมความงามที่ใช้ความร้อนจำพวก Thermage, เลเซอร์, ทรีทเมนต์ ก็ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกัน
6.งดการดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์แรก
แอลกอฮอล์ส่งผลต่อการขยายตัวของเส้นเลือด จึงไปรบกวนการกระจายตัวของโบท็อกซ์ และยังลดการแข็งตัวของเลือด ทำให้เกิดอาการบวมช้ำ รวมถึงแผลจากรอยเข็มฉีดยาก็สมานตัวได้ช้าด้วย จึงควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อกซ์
7. งดการสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์แรก
นอกจากบุหรี่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว สารนิโคตินในบุหรี่ยังส่งผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือดและการกระจายตัวของโบท็อกซ์ นอกจากนี้ยังทำให้โบท็อกซ์สลายได้ไวกว่าปกติด้วย จึงควรงดสูบบุหรี่ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อกซ์
8. งดยา หรือวิตามินบางชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
ควรงดยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพราะอาจทำให้เกิดรอยช้ำบริเวณผิวหนังที่ฉีดได้ จึงควรหลีกเลี่ยงยาแก้ปวด, ยาต้านการอักเสบ ชนิด NSAIDs (แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, นาพรอกเซน), วิตามินอี และ น้ำมันอีฟนิง พริมโรส เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
9. หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง รสจัด ใน 1 สัปดาห์แรก
หากไม่อยากให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ หลังฉีดโบท็อกซ์ในช่วง 1 สัปดาห์แรก แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง และอาหารรสจัด เพราะอาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรค และแบคทีเรียบางชนิด ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของแผลที่เกิดจากรอยเข็มที่ฉีดโบท็อกซ์ได้นั่นเอง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: โบริ้วรอยคืออะไร ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร ?
